'พระหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน' 'เหรียญจอบใหญ่' พิมพ์ มี ป.ปลา - ศึกษาให้ดีมีกำไร
จัดเป็นอีกพิมพ์ในตระกูล “พระหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน” ที่สร้างด้วยเนื้อ “ทองผสม” และนักสะสมให้ความนิยมสูงไม่แพ้ประเภท “รูปหล่อ” คุณค่าราคาจึงไม่แตกต่างกันคือปัจจุบันต้องใช้เงิน “หลายล้าน” จึงมีสิทธิ์ได้ครอบครองสำหรับ “พิมพ์จอบใหญ่” เพราะเป็นเหรียญที่สร้างด้วยวิธี “หล่อโบราณ” และสร้างขึ้นในยุคต้นประกอบกับเป็นพิมพ์ที่ พบเห็นยาก นักสะสมทุกระดับจึงระบุว่าสร้างไว้น้อยกว่าพิมพ์อื่น ๆ อีกทั้งขนาดขององค์พระ ไม่ใหญ่จนเกินงาม และ ไม่เล็กจนเกินไป เรียกว่ามีขนาดที่พอเหมาะกับการอาราธนาขึ้นแขวนคอนั่นเอง
ส่วนที่เรียกว่า “พิมพ์จอบใหญ่” ก็เนื่องจากรูปทรงองค์พระมีลักษณะที่คล้าย “จอบ” ที่ใช้สำหรับขุดดินโดยมีรูป “หลวงพ่อเงิน” ในท่านั่งสมาธิอยู่ภายในกรอบที่ล้อมรอบด้วย “เม็ดไข่ปลา” ส่วน “ห่วง” (หูเหรียญ) ก็เป็นห่วงเชื่อมที่หล่อติดมากับพิมพ์เพื่อใช้ห้อยคอในยุคนั้น ด้านหลังเรียบไม่มีอักขระหรือการจารอักขระแต่อย่างใด และมีการแบ่งแยกออกเป็น “สองพิมพ์” (บล็อก) คือ “พิมพ์มี ป.ปลา” หรือ “พิมพ์เส้นสังฆาฏิแตก” หรือนักสะสมบางคนเรียกว่า “พิมพ์จีวรชิด” ส่วนอีกพิมพ์คือ “พิมพ์ไม่มี ป.ปลา” หรือ “พิมพ์เส้นสังฆาฏิไม่แตก” หรือนักสะสมบางท่านเรียกว่า “พิมพ์จีวรห่าง” ซึ่งวันนี้ขอนำ “พิมพ์มี ป.ปลา” มาชี้จุดสังเกตที่ควรจดจำก่อนดังนี้
๑. “หูเหรียญ” ที่หล่อติดมากับพิมพ์ในองค์ที่หล่อติดดีจะมี “เม็ดไข่ปลา” ปรากฏเฉพาะด้านหน้าเท่านั้นและขอบเหรียญจะมี “เม็ดไข่ปลา” ล้อมรอบตลอดแนว
๒. “ศีรษะ” กลมมน “หน้าผาก” โหนกนูน “ใบหน้า” ยาวรีปรากฏ หู ตา จมูก ปาก ชัดเจน
๓. “ผ้าสังฆาฏิ” ปรากฏ “เส้นพิมพ์แตก” ทั้งด้านบนและด้านข้าง (ใกล้รักแร้) โดยเส้นพิมพ์แตกนี้มีลักษณะคล้ายตัวอักษร “ป.ปลา” จึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อพิมพ์ว่า “มี ป.ปลา” หรือ “เส้นสังฆาฏิแตก”
๔. “แขนขวา” ที่วางในลักษณะแบบ “แขนหักศอก” ปรากฏร่องตรง “ข้อศอก” อย่างชัดเจนและ “มือ” ทั้งสองข้างที่ประสานกันจะมีร่องขั้นตรงกลาง เป็นการแบ่งแยกมือซ้ายกับมือขวาอย่างชัดเจน
๕. “ชายจีวร” ในพิมพ์ “มี ป.ปลา” เส้นล่างสุดจะชิดติดกันจึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อพิมพ์ว่า “ชายจีวรชิด”
๖. “เส้นขอบ” ที่กั้นเม็ดไข่ปลาด้านล่างขวาองค์พระ “ปลายเส้น” จะแตกหายเข้าไปใต้เท้าซ้าย
๗. “ด้านหลัง” เรียบไม่มีอักขระหรือการจารอักขระแต่อย่างใด.
'พุทธธัสสะ'
ที่มา.ส่วนที่เรียกว่า “พิมพ์จอบใหญ่” ก็เนื่องจากรูปทรงองค์พระมีลักษณะที่คล้าย “จอบ” ที่ใช้สำหรับขุดดินโดยมีรูป “หลวงพ่อเงิน” ในท่านั่งสมาธิอยู่ภายในกรอบที่ล้อมรอบด้วย “เม็ดไข่ปลา” ส่วน “ห่วง” (หูเหรียญ) ก็เป็นห่วงเชื่อมที่หล่อติดมากับพิมพ์เพื่อใช้ห้อยคอในยุคนั้น ด้านหลังเรียบไม่มีอักขระหรือการจารอักขระแต่อย่างใด และมีการแบ่งแยกออกเป็น “สองพิมพ์” (บล็อก) คือ “พิมพ์มี ป.ปลา” หรือ “พิมพ์เส้นสังฆาฏิแตก” หรือนักสะสมบางคนเรียกว่า “พิมพ์จีวรชิด” ส่วนอีกพิมพ์คือ “พิมพ์ไม่มี ป.ปลา” หรือ “พิมพ์เส้นสังฆาฏิไม่แตก” หรือนักสะสมบางท่านเรียกว่า “พิมพ์จีวรห่าง” ซึ่งวันนี้ขอนำ “พิมพ์มี ป.ปลา” มาชี้จุดสังเกตที่ควรจดจำก่อนดังนี้
๑. “หูเหรียญ” ที่หล่อติดมากับพิมพ์ในองค์ที่หล่อติดดีจะมี “เม็ดไข่ปลา” ปรากฏเฉพาะด้านหน้าเท่านั้นและขอบเหรียญจะมี “เม็ดไข่ปลา” ล้อมรอบตลอดแนว
๒. “ศีรษะ” กลมมน “หน้าผาก” โหนกนูน “ใบหน้า” ยาวรีปรากฏ หู ตา จมูก ปาก ชัดเจน
๓. “ผ้าสังฆาฏิ” ปรากฏ “เส้นพิมพ์แตก” ทั้งด้านบนและด้านข้าง (ใกล้รักแร้) โดยเส้นพิมพ์แตกนี้มีลักษณะคล้ายตัวอักษร “ป.ปลา” จึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อพิมพ์ว่า “มี ป.ปลา” หรือ “เส้นสังฆาฏิแตก”
๔. “แขนขวา” ที่วางในลักษณะแบบ “แขนหักศอก” ปรากฏร่องตรง “ข้อศอก” อย่างชัดเจนและ “มือ” ทั้งสองข้างที่ประสานกันจะมีร่องขั้นตรงกลาง เป็นการแบ่งแยกมือซ้ายกับมือขวาอย่างชัดเจน
๕. “ชายจีวร” ในพิมพ์ “มี ป.ปลา” เส้นล่างสุดจะชิดติดกันจึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อพิมพ์ว่า “ชายจีวรชิด”
๖. “เส้นขอบ” ที่กั้นเม็ดไข่ปลาด้านล่างขวาองค์พระ “ปลายเส้น” จะแตกหายเข้าไปใต้เท้าซ้าย
๗. “ด้านหลัง” เรียบไม่มีอักขระหรือการจารอักขระแต่อย่างใด.
'พุทธธัสสะ'
'พระหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน' 'เหรียญจอบใหญ่' พิมพ์ มี ป.ปลา - ศึกษาให้ดีมีกำไร
..http://beta.dailynews.co.th/article/1291/3376๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
“เหรียญจอบใหญ่หลวงพ่อเงินวัดบางคลานพิมพ์สังฆาฏิแตก” องค์นี้ผ่านการใช้มาโชกโชนแต่หากสนใจ ครอบครอง ก็ต้องควัก กว่าสองล้าน เพราะองค์นี้ ดูง่าย จึงเป็น พระแท้ทุกสนาม อดีตเป็นของ เซียนไฮโซ ปัจจุบันเป็นสมบัติของ “จีระศักดิ์ โกมุทกุล”
สายตรงคนนิยมพระ วันที่ 22 มกราคม 2555
วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2555
“สายตรงคนนิยมพระ” อาทิตย์ที่ ๒๒ มกราคม อยู่ในช่วงเทศกาล ตรุษจีน พอดี “ตะวันบูรพา” จึงขอเอ่ยคำว่า “ซินเจียยู่อี่...ซินนี้ฮวดใช้” กับพี่น้อง ชาวไทยเชื้อสายจีน ทั่วไทย คิดสิ่งใดก็ขอให้ สมปรารถนาทุกประการ และสิ่งที่ อย่าลืม อีกอย่างก็คือ ขับรถลงเรือ ไปเที่ยวเหนือเที่ยวใต้ อย่าประมาท แล้วชีวิตช่วงเทศกาลดี ๆ จะ ไร้ทุกข์ ทุกกรณี เพราะวันนี้นอกจากอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนแล้วยังเป็น วันอาทิตย์ที่สี่ ของเดือน มกราคม ที่ผู้รู้ระบุว่าคือ เดือนมงคล ของปี “งูใหญ่” ที่เหมาะกับการ ทำกิจการ หรือ งานมงคล เนื่องจากเป็นเดือนที่มี ๕ วันอาทิตย์ ๕ วันจันทร์ ๕ วันอังคาร โบราณจึงถือเป็น เดือนดี ทำกิจการนอกจากมีแต่ “ได้และดี” แล้วกิจการนั้นยัง “ยั่งยืนมั่นคง” ชั่วนิจนิรันดร์ วกมารายงานข่าวชาว พระเครื่อง เพราะวันนี้มี ความคืบหน้า กรณี “นักซื้อมือหนัก” ที่โดน อำนาจมืด จากกลุ่ม นักขายพระ อุ้มขึ้นรถตู้ไป ทวงหนี้ แต่กลับไปยึดเอา “พระสมเด็จวัดบางขุนพรหมองค์แพง” เรื่องราวก็เลย จบไม่ลง เนื่องจาก “พระสมเด็จฯ” องค์นั้นคือ ของกลางชิ้นสำคัญ กับรูปคดีที่เวลานี้มีการ โยนกลอง ว่าธุดงค์ไปอยู่ในความ ครอบครอง ของ “รัฐมนตรี” ผู้หนึ่งแล้ว งานนี้ก็เท่ากับ ดึงเอา ท่านรัฐมนตรีมาเกี่ยวข้อง แบบเต็ม ๆ ส่วนผลจะ ดีกับใคร และจะ ให้ร้ายกับผู้ใด วันอาทิตย์หน้า “ตะวันบูรพา” จะเฉลยเนื่องจากช่วงนี้อยู่ใน “เทศกาลดี ๆ” ของพี่น้องชาวจีนจึงไม่ขอพูดถึงเรื่อง “อัปมงคล” ฉะนั้นอย่าลืม ติดตาม รับประกัน ลึกซึ้ง ยิ่งกว่า ดูละครไทย เพราะ ตัวละครใหม่ เรื่องนี้เป็นผู้ มีอิทธิพล ล้นเหลือจริง ๆ “พระแท้พระสวย” ที่นำเป็น “องค์ครู” องค์แรกเป็น “ยอดพระกริ่งชั้นดี” แต่นักสะสมไม่รู้จัก “พระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ที่จัดสร้างโดย วัดพระเชตุพนฯ หรือ วัดโพธิ์ท่าเตียน เมื่อปี ๒๕๑๐ เพื่อหารายได้ก่อตั้ง มูลนิธิพระพุทธยอดฟ้า ส่วนที่ว่า ยอดดี ก็เพราะเป็น “พระกริ่ง” ที่สร้างขึ้นเพียงเนื้อเดียวคือ ทองคำ ส่วนพิธีจัดสร้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี เททอง จึงจัดเป็น พระราชพิธี ที่สำคัญยิ่งซึ่งในสมัยปี ๒๕๑๐ หากสนใจบูชาต้อง สั่งจอง องค์ละ ห้าพันบาท ปัจจุบันราคายังไม่แรงแค่ หลักแสน เท่านั้นเองจึงน่าสะสมมากเนื่องจากเฉพาะมูลค่า ทองคำ ก็ทะลุกว่า เจ็ดหมื่น แล้วเพราะหนัก ร่วมสามบาท สมบัติของเซียนพระกริ่ง “สมชัย จงทวีทรัพย์”
องค์ต่อมาเป็น “พระหลวงพ่อเงินวัดบางคลานพิมพ์ขี้ตา” ที่นอกจาก ดูง่าย แล้วสภาพยังระดับ แชมป์ ที่พระเอกนักสะสม “อัครนันท์” ที่หาของเก่งนิมนต์มาจากรังใหญ่ในราคา สูงลิ่ว เพื่อเป็นของขวัญรับปีใหม่ให้ตัวเองเลยขอโชว์เพราะ พระตระกูลนี้ หางาม ๆ ยากจริง ๆ ส่วนเหรียญนี้เป็น เหรียญแพง ที่เรียกกันว่า “เหรียญจอบใหญ่หลวงพ่อเงินวัดบางคลานพิมพ์สังฆาฏิแตก” องค์นี้ผ่านการใช้มาโชกโชนแต่หากสนใจ ครอบครอง ก็ต้องควัก กว่าสองล้าน เพราะองค์นี้ ดูง่าย จึงเป็น พระแท้ทุกสนาม อดีตเป็นของ เซียนไฮโซ ปัจจุบันเป็นสมบัติของ “จีระศักดิ์ โกมุทกุล”
หันมาชมยอดพระแพง เมืองหนองคาย กันบ้างเพราะเป็น “เหรียญหลวงพ่อพระไสพิมพ์ดอกจิก” ที่สร้างเมื่อ ปี ๒๕๐๐ ด้วย เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง โดยจำลองแบบจาก พระประธานในโบสถ์วัดพระไส ปัจจุบันหายากเพราะนักสะสมเมืองหนองคาย เก็บกันหมด องค์นี้สมบัติของนักสะสมสุภาพสตรี “แยม-ชนมณี เทวาฤทธิ์” จึงรับประกันความ แท้ชัวร์ ส่วนองค์นี้ถือเป็น องค์ดารา ก็ว่าได้
“พระปิดตาวัดทองพิมพ์เศียรบาตร” ที่สร้างโดย “พระครูทับวัดทอง” เมื่อประมาณ ปี ๒๔๔๐ ด้วย เนื้อสัมฤทธิ์ ด้วยวิธี เทหล่อโบราณ ส่วนที่บอกว่าเป็นองค์ดาราก็เพราะมีภาพปรากฏใน หนังสือพระเครื่อง หลายเล่มพระเอกนักซื้อ “อัครนันท์” จึงนิมนต์เป็น องค์ประจำตัว เพราะทั้งพระทั้งคนต่างก็เป็น ดารา นั่นแล
ส่วนสามองค์นี้เป็น “พระถ้ำเสือกรุวัดเขาดีสลักเนื้อดิน” ที่นักสะสมรุ่นปรมาจารย์ “อ.มนัส โอภากุล” คุณพ่อของ “แอ๊ด คาราบาว” ยืนยันคือ “พระถ้ำเสือ” อีกตระกูลที่อายุ หลายร้อยปี ด้วยเหตุนี้ สมาคมผู้นิยมพระเครื่องฯ จึงจัดเข้าระบบ การประกวด โดยจะเริ่มรับประกวดในงาน ประกวดยักษ์ ที่ สมาคมฯ จัดขึ้นเองในเดือน มีนาคม ที่จะถึง “ตะวันบูรพา” จึงขอแจ้งเป็น ข่าวดี ให้ผู้ที่มีครอบครองอย่าลืม คัดองค์สวย เตรียมไว้ได้เลยมีนาคมปีนี้นำไป ล่ารางวัล กันได้เลยส่วนสามองค์ที่ท่านชมอยู่นี้เป็น “พิมพ์ใหญ่-พิมพ์กลาง-พิมพ์เล็ก” สมบัติของนักสะสมหน้าใหม่แต่ เก๋าในวงการ เพราะคือ “พ.ต.อ.ชาญศิริ สุขรวย” นั่นแล ช่วงนี้ “เหรียญพระพรหมหลวงปู่ดู่วัดสะแก” กำลังมาแรง “ตะวันบูรพา”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น